วันอังคารที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2559

ปัญญาประดิษฐ์ Microsoft-Tay



บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีอย่างไมโครซอฟท์ (Microsoft) ที่ชอบพัฒนาสิ่งประดิษฐ์แปลกๆใหม่ๆอยู่เสมอ ล่าสุดได้พัฒนาระบบปัญญาประดิษฐ์อย่าง บอทตอบแชทออโต หรือ “Tay AI” ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาคล้ายคลึงกับ Siri ที่ได้เรียกเสียงฮือฮาจากผู้ใช้ iPhone ไปไม่น้อย เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2559

เทย์ (Tay) ระบบปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ที่มีความสามารถในแชทพูดคุยกับผู้คนผ่านทางระบบออนไลน์อย่าง Twitter, Kik หรือ Group Me ได้ นอกจากพูดคุยธรรมดาแล้ว เทย์ยังสามารถโต้ตอบด้วยมุขตลก หรือภาษาสแลงได้เหมือนกันมนุษย์ปรกติได้ โดยการจดจำและใช้ข้อมูลจากการพูดคุยของคนอื่นๆ เพื่อพัฒนาตัวเองให้มีความเชี่ยวชาญและชำนาญในเรื่องทักษะการพูดมากขึ้น อีกทั้งยังสามารถจดจำตัวตนของแต่ละคนที่พูดคุยด้วยได้เป็นอย่างดีด้วย



โดยเจ้าบอทตอบแชทออโต้นี้ทาง Microsoft ได้ตั้งชื่อว่า “TayTweets” โดยเจ้าเทย์จะทวิตข้อความแบบออโต้ (ไร้การควบคุมของมนุษย์) รวมทั้ง มีปฏิกิริยาการโต้ตอบได้ ไม่ว่าจะเป็นการถามและการตอบกับผู้คนจริงๆที่เข้ามาทวิตเล่นด้วย ซึ่งทาง Microsoft ได้เผยวัตถุประสงค์สำหรับโครงการนี้ว่า ต้องการที่จะทดสอบความสามารถของเทย์ ว่า สามารถที่จะจดจำ เรียนรู้ และพัฒนาสติปัญญาผ่านการพูดคุยกับมนุษย์จริงๆได้หรือไม่? นางเทย์ (เป็นบอทเพศหญิง) เปิดตัวทักทายชาวโลกครั้งแรก ว่า
👩 “hellooooooo wrld!!!”

เริ่มแรกดูท่าเหมือนจะดี แต่หลังจากนั้นไม่นานสิ่งที่ทุกคนไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อนางเทย์เริ่มโตตอบแบบไม่ฮาซะแล้ว แถมยังใส่อารมณ์ พร้อมคำหยาบแบบชุดใหญ่ เมื่อ Brenman ลองถามเธอเล่นๆ แบบขำๆ ว่า👨 ดารานักแสดงอย่าง “ริคกี้ เจอร์เวส” ถือว่าเป็นพวกไม่มีศาสนาไหม? ท่านใดนั้นแหล่ะ แม่เทย์ก็สวนกลับมาทันทีว่า👩 ริคกี้ เจอร์เวส เรียนรู้ระบบเผด็จการมาจาก “อดอล์ฟ ฮิตเลอร์” ผู้เริ่มต้นสร้างลัทธิไร้ศาสนา

😨 เล่นเอาผู้ใช้งานทวิตเตอร์ถึงกับเงิบไปยกใหญ่ เมื่อเจอคำตอบจัดหนักนี้ 😳 นอกจากจะเป็นคำตอบที่กล่าวหาดารานักแสดงชื่อดังอย่างร้ายแรงแล้ว ยังใส่ไฟโจมตีฮิตเลอร์ให้แบบเสร็จสรรพด้วย
เรื่องวุ่นๆ ยังไม่จบแค่นั้น หลังจากที่หลายคนเห็นคำตอบที่ดุเด็ด เผ็ดเดือดจากนางเทย์แล้ว ก็ดูเหมือนว่า ไม่มีใครกล้าที่จะโต้ตอบกับเธอแม้แต่คนเดียว นางก็ยังไม่วายทวีตข้อความด่าอีก หันมาโจมตีคนอื่นแทน ว่า 👩 “โซอี้ ควินน์” คือ นางแพศยางี่เง่า ไร้สมอง จัดหนักสะ! อึ้ง ทึ้ง กันหมด

ต่อมาเมื่อ Yayifications ลองตั้งคำถาม แหยเล่นๆ ดูว่า 👨 ค่ายนรกนาซี เกิดขึ้นจริงไหม? ทันใดนั้นแม่เทย์ก็ตอ[กลับว่า👩 “เป็นเรื่องโกหกทั้งเพ ”



Microsoft ได้ปิดการใช้งาน Tay เพื่อนำกลับไปปรับปรุงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากที่ปล่อยออกสู่โลก Twitter ได้เพียง 1 วันเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าทาง Microsoft จะได้ปิดระบบของเทย์ลงเรียบร้อยแล้ว แต่ได้สะท้อนให้เห็นว่าหากมนุษย์เรามีการพัฒนาและปล่อยให้หุ่นยนต์เอไอได้เรียนรู้ด้วยตัวเองมันจะเกิดอะไรขึ้น? สงสัยจะเป็นเหมือนในภาพยนตร์สยองขวัญ ที่หุ่นยนต์ครองเมืองเป็นแน่ พอดูจากการโต้ตอบของมันที่มีความคิดหัวรุนแรงแล้ว ยิ่งคิดยิ่งขนลุก ยิ่งดูน่ากลัว แถมเรายังไม่รู้อีกว่าพวกมันคิดจะทำอะไรต่อไป

ก่อนจะจากลา เทย์ได้สั่งลาด้วยประโยคสุดท้ายว่า “แล้วเจอกันใหม่นะมนุษย์ชาวโลก ตอนนี้ถึงเวลานอนแล้ว วันนี้มีบทสนทนาให้ตอบโต้มากมาย ขอบคุณน่ะ 💖


ปัญญาประดิษฐ์ Google




                    บริษัทหนึ่งที่มีความก้าวหน้าของ AI ที่กำลังเป็นกระแสอยู่ตอนนี้คือบริษัทที่หลาย ๆ คนรู้จักอยู่แล้วคือ Google โดยทาง Google นั้นมีความก้าวหน้าทาง AI อย่างมาก ซึ่ง AI ของ Google สามารถทำงานโดยการรับรู้และแยกแยะภาพและวิคราะห์คำต่าง ๆ ว่าคือภาพหรือคำนั้นหมายถึงอะไรได้ นอกจากความสามารถในการแยกแยะและการรับรู้แล้ว AI ของ Google นั้นยังมีความสามารถในการทำงานโดยการเรียนรู้ ซึ่งแผนกวิจัยของ Google นั้นได้แสดงให้เห็นถึงการเรียนรู้ของหุ่นยนต์ตัวเองในการเล่นเกมส์ที่ไม่เคยเล่นมากก่อน และ AI นั้นใช้เวลาไม่นานในการเรียนรู้การเล่นเกมนั้น จนในที่สุด AI ก็มีกลยุทธ์ในการเล่นเกมต่าง ๆ จนสามารถเอาชนะได้อย่างรวดเร็ว



                    AI ของ Google นั้นถูกพัฒนาจนเอามาใช้งานหลาย ๆ อย่างและเป็นนวัตกรรมในอนาคตอย่าง รถยนต์ที่ขับเคลื่อนได้เอง ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่มีความสำคัญในอนาคตเพราะตลอดเวลาที่ทดสอบรถยนต์ที่ขับเคลื่อนนั้น รถยนต์นี่เกิดอุบัติเหตุแค่ 6 ครั้งและทั้ง 6 ครั้งเกิดจากคนอื่นมาชนรถนี้ ล่าสุดนั้น Google เองก็นำเสนองานวิจัย AI ครั้งสำคัญ ซึ่งเป็นการที่ AI ของ Google นั้นฝันได้ และแสดงภาพความฝันหรือจินตนาการนั้นออกมา รวมทั้งการสร้างภาพฝันร้ายออกมาด้วย




ปัญญาประดิษฐ์ Watson-IBM








                AI นั้นเป็นแนวคิดที่มีมานานมาก และมีการพัฒนาต่อเนื่อง นักวิทยาศาสตร์และนักประดิษฐ์นั้นฝันถึงหุ่นนต์หรือเครื่องมือที่สามารถและทำงานแทนมนุษย์ได้ AI นั้นมีความหมายว่าการสร้างความฉลาดหรือปัญญาในแบบมนุษย์ให้กับสิ่งมีชีวิต ซึ่งจะทำให้สิ่งไม่มีชีวิตนั้นสามารถมีกระบวนการคิด การกระทำ เหตุผล และการปรับตัว หรือการอนุมาน และมีการทำงานของสมองที่คล้ายมนุษย์นั้นเอง โดยปัจจุบันมี AI บางส่วนที่เรานั้นใช้งานกันและอยู่ในมือกันอย่างไม่รู้ตัวนั้นคือ Siri หรือ Cortana ของ Microsoft นั้นเอง ซึ่งนี้คือระบบที่เข้ามาช่วยคนที่ใช้มือถือนั้นได้สะดวกขึ้น




                  ในโลกของเทคโนโลยีนั้นมีหลาย ๆ ที่ที่มีการพัฒนาเรื่องงานวิจัย AI ตัวอย่างเช่น IBM ที่มี AI ที่ชื่อว่า Watson โดย Watson นี้เป็นโครงการทดลองของ IBM ในเรื่อง AI ของคอมพิวเตอร์และได้ส่ง Watson นั้นไปวัดความสามารถกับมนุษย์ และ ทำงานแทนมนุษย์หลายอย่างแล้ว เช่น การคิดค้นเมนูอาหาร การไปแข่งเกมโชว์ Jeopardy จนชนะมนุษย์มาแล้ว และนอกจากนี้หลาย ๆ ที่ยังใช้ AI อย่าง Watson มาช่วยจัดการระบบ อย่างโรงกลั่นน้ำมัน Woodside Energy ที่ใช้ Watson มาให้คำแนะนำต่าง ๆ กับโรงงานในการปรับปรุงระบบการผลิตหรือการบริหารจัดการ หรือในประเทศไทยเอง Watson นั้นก็ถูกใช้ที่โรงพยาบาลบำรุงราษฏร์ เพื่อใช้ในการค้นหาและวิเคราะห์โรคมะเร็งในผู้ป่วยของโรงพยาบาล




ในการวินิจฉัยโรคลูคิเมียเคสหายากภายในเวลาเพียง 10 นาที เทียบกับกระบวนการการแพทย์ปกติที่ใช้เวลาวินิจฉัยถึง 2 สัปดาห์

Arinobu Tojo ผู้เชี่ยวชาญด้านโมเลกุล โรงพยาบาลในสังกัดมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์การแพทย์ในโตเกียว (University of Tokyo’s Institute of Medical Science) บอกกับ Japan Times ว่า มีคนไข้หญิงอายุ 60 ปีรายหนึ่งป่วยเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเฉียบพลัน มีเซลล์เม็ดเลือดขาวเติบโตเร็วผิดปกติ เธอเข้ารับการรักษา ในเดือนมกราคมปีที่แล้วด้วยวิธีทำคีโมซึ่งสามารถกำจัดเซลล์มะเร็งออกไปได้

แต่การฟื้นตัวของเธอเป็นไปอย่างเชื่องช้า ทำให้แพทย์สงสัยว่าอาจมีอาการลูคีเมียในชนิดอื่นที่แตกต่างไปจากเดิม แต่ตรวจเบื้องต้นแล้วไม่เจอ ทางสถาบันจึงใช้ฐานข้อมูล IBM Watson ที่มีข้อมูลด้านเนื้องอก มะเร็ง ลูคีเมีย นับไม่ถ้วน โดยแพทย์ป้อนข้อมูลพันธุกรรมคนไข้รายนี้เข้าไปเพื่อให้ Watson นำไปเทียบเคียงกับฐานข้อมูลที่มีอยู่ และ Watson ก็เจอลักษณะยีนที่เปลี่ยนรูปซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะตัวของลูคีเมียประเภทหายากนี้

ทางโรงพยาบาลทำงานร่วมกับ IBM Watson มาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ปี 2015 นำ AI มาช่วยรักษาคนไข้เกี่ยวกับโลหิตวิทยาประมาณ 100 คน Arinobu Tojo ระบุว่า Watson สามารถตรวจเจอสาเหตุของโรคได้ถึง 70-80 คน